พารู้จักเครื่องดื่มกาแฟพรีเมียมที่มีดีมากกว่าแค่รสชาติ

รู้หรือไม่ว่ากว่าจะได้กาแฟพรีเมียมในแต่ละขั้นตอนนั้น ต้องผ่านกระบวนการต่าง ๆ มากมายอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่การคัดสรรเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ ผ่านการคั่วและสกัดที่ใส่ใจในรายละเอียด อีกทั้งยังต้องมีการควบคุม โดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ในการคั่วเมล็ดกาแฟเป็นพิเศษ จนได้เป็นกาแฟรสชาติที่เข้มข้นอันเป็นเอกลักษณ์

  และด้วยความละเมียดละไมของกาแฟพรีเมียม ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบในการดื่มกาแฟหลงใหลในรสชาติ แต่จะมีเมล็ดกาแฟมีกี่แบบและสายพันธุ์ใดบ้างที่นิยมนำมาผลิตเป็นกาแฟ ไปหาคำตอบกันได้เลย  

เมล็ดกาแฟพรีเมียม

สายพันธุ์เมล็ดกาแฟ

การเพาะปลูกเมล็ดกาแฟไม่สามารถปลูกได้ในพื้นที่ปลูกทั่วไป แต่ต้องคำนึงถึงพื้นที่ที่เหมาะกับการปลูก เช่น สภาพดิน ภูมิอากาศ ปริมาณฝน ความชื้นและสภาพแสงแดดต่างก็มีผลต่อแต่ละสายพันธุ์ของเมล็ดกาแฟ ซึ่งสายพันธุ์ที่คอกาแฟอาจจะคุ้นเคยกันมาบ้าง จะมีอยู่ด้วยกัน 4 สายพันธุ์ คือ Arabica, Robusta, Liberica และ Excelsa แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Arabica และ Robusta โดยทั้งสองสายพันธุ์จะมีความต่างทั้งเรื่องของรูปลักษณ์ของเมล็ดกาแฟ รวมถึงกลิ่นและรสชาติที่มีความเฉพาะตัว 

  • เมล็ดกาแฟอะราบิกา (Arabica)

เป็นสายพันธุ์กาแฟสามารถพบเห็นได้ง่ายด้วยปริมาณการปลูกเมล็ดกาแฟพันธุ์นี้ที่มีอยู่ทั่วโลก รวมถึงในภาคเหนือของประเทศไทย อย่างจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ตาก และน่าน เพราะสามารถเติบโตได้ดีบนพื้นที่สูงที่มีอากาศเย็น ซึ่งเมล็ดกาแฟจะมีลักษณะเรียว มีรอยผ่ากลางเป็นตัว S เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

จุดเด่น: มีรสชาติที่นุ่มละมุนในหลายมิติและมีปริมาณคาเฟอีนที่ไม่สูงมาก

  • เมล็ดกาแฟโรบัสต้า (Robusta)

เป็นสายพันธุ์เมล็ดกาแฟที่ได้รับความนิยมรองลงมา ตัวเมล็ดกาแฟมีลักษณะกลมอวบกว่าเมล็ดอะราบิกาและมีรอยผ่ากลางเมล็ดเป็นเส้นตรง ซึ่งส่วนใหญ่จะนำไปทำเป็นกาแฟสำเร็จรูป เพราะเป็นกาแฟที่มีสีที่เข้มและมีกลิ่นขมของกาแฟที่ชัดเจน เมล็ดกาแฟโรบัสต้านิยมปลูกกันมากในแถบทวีปแอฟริกาและเอเชีย และนิยมปลูกในโซนภาคใต้ของประเทศไทยที่มีพื้นที่ที่มีระดับความสูงตั้งแต่ 500-600 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล

จุดเด่น: มีรสชาติฝาดชัดเจนและมีความเข้มข้น ทำให้มีปริมาณคาเฟอีนที่สูงจึงครองใจคนทำงานที่อยากตาสว่างและทำงานได้ยาว ๆ

  • เมล็ดกาแฟลิเบอริก้า (Liberica)

เป็นสายพันธุ์กาแฟที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ไลบีเรียและไอวอรีโคสต์ ได้รับความนิยมแพร่หลายในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย เป็นเมล็ดกาแฟที่ชอบอากาศร้อนชื้นและน้ำชุ่ม ถึงแม้จะได้รับความนิยมที่น้อยกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ เพราะด้วยรสชาติและกลิ่นที่ไม่อาจสู้กับเมล็ดกาแฟอะราบิก้าได้ อีกทั้งยังด้อยในเรื่องรสขมถ้าเทียบกับเมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า แต่ด้วยรสชาติที่เปรี้ยวอมหวานเป็นเอกลักษณ์เหล่าบาริสต้าจะนิยมนำไปผสมกับเมล็ดกาแฟพันธุ์อื่น ๆ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มรสชาติได้

จุดเด่น: มีรสชาติใกล้เคียงกับเมล็ดกาแฟอะราบิกา แต่มีเอกลักษณ์ที่รสชาติ เพราะมีความเปรี้ยวอมหวานของผลเบอร์รี

  • เมล็ดกาแฟกาแฟเอ็กซ์เซลซ่า (Excelsa)

สายพันธุ์นี้ได้รับความนิยมในแถบประเทศแอฟริกา ด้วยรสชาติที่เข้มข้นและมีความขม มีกลิ่นหอมมันเฉพาะตัว สามารถปลูกและดูแลง่าย ทนต่อสภาพอากาศแล้งสามารถทนโรคได้ดี แถมให้ผลผลิตที่สูงอีกด้วย

จุดเด่น: มีรสชาติเข้มข้นและขมในแบบเฉพาะตัว มีกลิ่นหอมคล้ายกับเมล็ดกาแฟอะราบิกา

กาแฟพรีเมียม

กระบวนการคั่วที่พิถีพิถัน

การคั่วเมล็ดกาแฟพรีเมียมนั้นต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะทางเป็นอย่างมาก ต้องเป็นผู้รู้เรื่องรสชาติของเมล็ดกาแฟได้ดี พร้อมทั้งต้องคำนวณหาจุดที่อุณหภูมิมีความสมดุลสำหรับการคั่ว เพื่อดึงเอาเอกลักษณ์รสชาติของเมล็ดกาแฟนั้น ๆ ออกมาได้อย่างไม่เสียรสชาติ  

  • การคั่วอ่อน (Light Roast)

เมล็ดกาแฟคั่วอ่อนจะมีสีน้ำตาลอ่อน มีความแห้ง มีรสที่โดดเด่นไปทางเปรี้ยวหวานชัดเจน มีกลิ่นหอมคล้ายกับดอกไม้หรือกลิ่นของผลไม้ ได้รสสัมผัสที่มีความนุ่ม รสขมน้อย กลมกล่อม

ข้อควรรู้: เหมาะสำหรับการนำไปชงแบบ Drip

  • การคั่วกลาง Medium Roast

เมล็ดกาแฟคั่วกลางจะมีสีน้ำตาลเข้มมากกว่าแบบคั่วอ่อนที่ผิวเมล็ดจะมีความชุ่มชื้นพอประมาณ และไม่แห้งไป มีความเป็นธรรมชาติและคงสภาพเมล็ดกาแฟไว้พอดี มีรสชาติทั้งรสเปรี้ยวและรสหวานในระดับที่พอดีกัน จะได้รสสัมผัสที่นุ่มหอมขึ้น มีกลิ่นของถั่วหรือกลิ่นคาราเมลกรุ่น ๆ อยู่ในนั้น

ข้อควรรู้: เหมาะสำหรับการชงแบบเอสเพรสโซ่หรือจะใช้ในการชงแบบ Moka Pot

  • การคั่วเข้ม Dark Roast

เมล็ดกาแฟแบบคั่วเข้ม ถึงชื่อจะดูเข้มแต่รสชาติที่ได้กลับมีความหวานมากกว่าการคั่วแบบอื่น เมื่อผ่านการคั่วจะติดกลิ่นไหม้ผสมเข้าไปเล็กน้อย ทำให้มีกลิ่นความขมแบบดาร์คช็อกโกแลต จึงถูกปากคอกาแฟ

ข้อควรรู้: เหมาะสำหรับชงกับเครื่องเอสเพรสโซ่ 

การแบ่งเกรดเมล็ดกาแฟ

การแบ่งเกรดเมล็ดกาแฟนั้นจะได้รับการประเมินโดย SCA (Specialty Coffee Association) ซึ่งเป็นสมาคมกาแฟคัดพิเศษ โดยจะพิจารณาจากเรื่องปริมาณของเมล็ดกาแฟเขียว สารในกาแฟ ความหนาแน่นของเมล็ด รวมถึงคุณภาพของรสชาติและความหอมโดยรวมของเมล็ดกาแฟหลังคั่ว สำหรับเมล็ดกาแฟเกรดพรีเมียมนั้นจะต้องมีคุณภาพของเมล็ดที่มีความบกพร่องน้อยที่สุด และต้องคงความเอกลักษณ์ของกลิ่นหรือรสชาติของเมล็ดไว้ให้ได้อย่างดี จึงจะสามารถนำไปสู่การเป็นกาแฟพรีเมียมได้อย่างสมบูรณ์

หากกำลังมองหากาแฟพรีเมียมปรุงสำเร็จชนิดผงให้ Roomcoffee เป็นสิ่งดี ๆ ที่เราคัดสรรมาเพื่อคุณ ด้วยเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อะราบิกาคุณภาพดี เกรดพรีเมียมจากแหล่งผลิตกาแฟที่ได้รับการยอมรับระดับโลก มาในรูปแบบซองพร้อมชง ดื่มง่าย รสชาติอร่อยเข้มข้น พร้อมช่วยดูแลสุขภาพของคุณได้อีกระดับ เพราะมีสารอาหารกว่า 36 ชนิด ดื่มได้ทุกวันแน่นอน