
รู้หรือไม่ว่ากาแฟเป็นพืชในตระกูลเบอร์รี จึงอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และดีต่อสุขภาพ แต่สิ่งที่ทำให้สุขภาพของเราถดถอยคือ สิ่งที่เราใช้ปรุงความอร่อยกับกาแฟแก้วโปรด ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลแสนหวาน นมที่อุดมไปด้วยไขมัน หรือครีมเทียมที่มีไขมันทรานส์ ดังนั้น ใครที่ติดการดื่มกาแฟยามเช้า แต่อยากมีสุขภาพดี ไม่อ้วน และไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพต้องอ่านบทความนี้ เพราะเรานำสูตรกาแฟที่ดีต่อใจตรงความอร่อย และดีต่อร่างกายตรงที่ไม่มีน้ำตาล ปราศจากไขมันจากนมวัว โดยมีทั้งเมนูกาแฟผลไม้ และกาแฟที่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลมาฝากกัน
ใช้สารให้ความหวานทดแทน
สำหรับใครที่ยังติดหวาน หรือไม่สามารถทนกับรสชาติกาแฟเพียว ๆ ได้ สูตรแรกเราขอแนะนำให้ใช้สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลแบบเดิม ซึ่งเราจะต้องเลือกสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่สามารถใช้กับเครื่องดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น เพื่อให้มีรสชาติอร่อย ไม่เฝื่อนหรือขม
สารให้ความหวานแทนน้ำตาลในปัจจุบันจะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
- แบบให้พลังงาน อย่างเช่น ไซลิทอล (Xylitol) ซอร์บิทอล (Sorbitol) แมนนิทอล (Mannitol) ไอโซมอลท์ (Isomalt) ที่แม้จะให้พลังงานแต่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ และดูดซึมเข้าร่างกายได้ช้า นิยมนำมาใส่ในของขบเคี้ยวประเภทลูกอม หมากฝรั่ง รวมถึงยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก ที่สำคัญคือ ไม่ทำให้ฟันผุ
- แบบไม่ให้พลังงาน เป็นสารที่ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลหลายเท่า ทำให้ในความหวานที่เท่ากัน แต่ใช้ในปริมาณน้อยมากจนไม่ให้พลังงานหรือ 0 แคลอรี อย่างเช่น ซูคราโรส (Sucralose) แอสปาร์แตม (Aspartame) สตีวิโอไซด์ (Stevioside) หรือน้ำตาลหญ้าหวาน (Stevia) ขัณฑสกรหรือแซ็กคาริน (Saccharin) ซึ่งในรายชื่อที่กล่าวมา ซูคราโรสจะให้ความหวานที่คล้ายกับน้ำตาลมากที่สุด และให้ความหวานมากกว่า 600 เท่า ส่วนหญ้าหวานจะได้รับความนิยมรองลงมา โดยหวานกว่าน้ำตาล 150-300 เท่า ส่วนแอสปาร์แตมและแซ็กคารินจะไม่ค่อยเหมาะกับการใช้กับกาแฟหรือเครื่องดื่มร้อนอื่น ๆ เพราะจะมีรสชาติขมและเฝื่อน
ไม่ใส่ครีมเทียม
เชื่อว่าตอนนี้ทุกคนทราบกันดีว่า ครีมเทียมไม่ได้ทำจากนม แต่ทำมาจากไขมันจากพืช โดยนำมาเติมไฮโดรเจนจนเปลี่ยนเป็นกรดไขมันอิ่มตัวและกรดไขมันชนิดทรานส์ ส่งผลทำให้เกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ หากรับประทานไปนาน ๆ
นอกจากไขมันจากพืชแล้ว ในครีมเทียมยังมีไซรัปหรือน้ำเชื่อมที่ให้รสหวาน รวมถึงสารปรุงแต่งต่าง ๆ ที่ทำให้มีรสชาติและรสสัมผัสเหมือนกับนมสด แต่มีราคาที่ถูกกว่า ด้วยเหตุนี้ การดื่มกาแฟผสมครีมเทียมจึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราโดยตรง ทั้งทำให้น้ำหนักเกินกว่ามาตรฐาน เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงตับทำงานผิดปกติ
คำถามก็คือ หากว่าเราติดกาแฟหอม ๆ มัน ๆ แบบใส่ครีมเทียมจะต้องทำอย่างไร เราแนะนำให้ใช้นมสดที่มีไขมัน 0% นมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง ซึ่งดีต่อสุขภาพมากกว่า

เพิ่มความสดชื่นด้วยน้ำผลไม้
ตอนนี้เทรนด์กาแฟ x น้ำผลไม้ กำลังเป็นที่นิยม เพราะนอกจากจะมีรสชาติอร่อยแล้ว ยังใช้ความหวานจากน้ำผลไม้แทนน้ำตาลปกติ ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องใส่น้ำตาลเพิ่ม ก็ดื่มด่ำกับความอร่อยของกาแฟได้เช่นเดียวกัน
ตัวอย่าง กาแฟผลไม้ที่จับคู่กันแล้วเวิร์กสุด ๆ
- กาแฟส้ม เป็นกาแฟยอดฮิตในยุคนี้ โดยนำน้ำส้มมาผสมกับน้ำกาแฟ เหมือนเป็นอเมริกาโน่ ก็ให้รสชาติและความหอมที่ไม่ซ้ำใคร
- กาแฟมะพร้าว หลายคนนิยมดื่มแบบ Cold Brew ซึ่งสามารถดึงรสชาติและความหอมหวานมาได้อย่างลงตัว
- กาแฟน้ำผึ้งมะนาว ใครที่เคยกินแต่ชาน้ำผึ้งมะนาว ลองเปลี่ยนเป็นกาแฟน้ำผึ้งมะนาว รับรองว่าอร่อยไม่แพ้กัน
- กาแฟเสาวรส กาแฟกับน้ำผลไม้รสเปรี้ยวมีความเข้ากันอย่างลงตัว การใส่น้ำเสาวรสลงไปก็เช่นกัน
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว เรายังสามารถใส่น้ำผลไม้อื่น ๆ ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นน้ำแอปเปิล น้ำสับปะรด หรือแม้กระทั่งน้ำผลไม้รวม เพิ่มรสชาติและความหอมได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ใส่น้ำผึ้ง
เราต่างทราบกันดีว่า น้ำผึ้งเป็นยาอายุวัฒนะ ที่ช่วยลดอาการอักเสบ และดีต่อสุขภาพของเรา เราจึงใช้น้ำผึ้งในการให้ความหวานแทนน้ำตาลมาอย่างยาวนาน โดยนอกจากการเอาน้ำผึ้งมาใส่ชาและน้ำผลไม้อื่น ๆ แล้ว เรายังสามารถนำมาใส่ในกาแฟได้เช่นกัน โดยจะใส่เป็นกาแฟดำ หรือจะเพิ่มความอร่อยด้วยการบีบมะนาว หรือผสมกาแฟกับน้ำขิงแล้วเติมน้ำผึ้งลงไป
ปัจจุบันมีน้ำผึ้งที่ผลิตออกมามากมาย ทั้งน้ำผึ้งป่า น้ำผึ้งดอกลำไย น้ำผึ้งเดือนห้า ที่เราสามารถเลือกซื้อได้ตามความชอบ แต่ถ้าจะให้ดีต่อสุขภาพแบบจริง ๆ ต้องเป็นน้ำผึ้งแท้เท่านั้น
ใครที่กำลังมองหากาแฟเพื่อสุขภาพ อย่างสูตรกาแฟไม่มีน้ำตาล ที่ใช้สารให้ความหวานทดแทน และช่วยเผาผลาญพลังงาน Room Coffee กาแฟพรีเมียมปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม ที่ผสานคุณค่าจากสารสกัดจากธรรมชาติ 36 ชนิด ไม่มีน้ำตาล ดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน
ที่มา :
- สารให้ความหวานแทนน้ำตาล เติมความหวานให้ชีวิตและสุขภาพ. สืบค้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 จาก https://www.pobpad.com/สารให้ความหวานแทนน้ำตา
- 12 สูตรกาแฟน้ำผลไม้ เติมคุณค่าอร่อยเข้มคูณสอง. สืบค้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 จาก https://cooking.kapook.com/view240265.html