บอกต่อ 5+1 สูตรกาแฟฉบับคนคุมน้ำหนักที่ไม่อยากกินกาแฟดำทุกวัน

การเลือกเมนูกาแฟในช่วงควบคุมน้ำหนักถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนหนักใจ เพราะในช่วงเวลาที่ต้องดูแลสุขภาพและลดความอ้วนแบบนี้ ใครต่อใครต่างก็แนะนำให้ดื่มกาแฟดำกันทั้งนั้น ซึ่งก็ยากที่ปฏิเสธว่า ในบางวันเราเองก็ต้องการเมนูกาแฟที่ดีต่อใจ แถมยังช่วยรักษาสุขภาพและดูแลหุ่นเช่นกัน ดังนั้น ก่อนที่ใครหลายคนจะห่อเหี่ยวจากการต้องทนดื่มกาแฟดำทุกวัน วันนี้เราจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับ 5+1 สูตรกาแฟที่ช่วยทำให้ใจรู้สึกสดชื่นในช่วงที่ต้องควบคุมน้ำหนักกัน บอกเลยว่าแต่ละสูตรนั้นใช้วัตถุดิบที่หาง่าย ทำตามไม่ยาก แถมอร่อยและดีต่อใจสุด ๆ แต่จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูในแต่ละเมนูไปพร้อมกันเลย!

สูตรกาแฟดูแลสุขภาพช่วงคุมน้ำหนัก

สูตรที่ 1 : กาแฟนมแอลมอนด์

สำหรับคอกาแฟนมที่ต้องงดเว้นจากลาเต้ คาปูชิโน่ หรือเมนูกาแฟนมอื่น ๆ มาเป็นเวลานาน เพราะเชื่อว่านมมีส่วนประกอบของไขมันที่ทำให้อ้วน บอกเลยว่าวันนี้ถึงเวลาคืนสู่วงการกาแฟนมอีกครั้ง แต่ในวันนี้เราจะเปลี่ยนจากกาแฟนมวัวมาเป็นนมแอลมอนด์แทน ซึ่งนอกจากจะมีแคลเซียมและโปรตีนที่สูงแล้ว นมจากถั่วแอลมอนด์ยังมีแคลอรีที่ต่ำ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามิน E และวิตามิน D อีกด้วย

โดยการทำกาแฟนมแอลมอนด์นั้น สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงเตรียมกาแฟดำ หรือ เอสเพรสโซ่ขนาด 1 – 2 ช็อต หรือตามขนาดความเข้มที่ชอบ จากนั้นก็ให้เทนมแอลมอนด์จำนวน 2 ออนซ์เข้าไปผสม ซึ่งหากใครชอบทานกาแฟร้อนก็สามารถใช้นมร้อนได้ หรือหากใครชอบดื่มกาแฟเย็นก็เติมน้ำแข็งลงไปเพื่อเพิ่มความเย็นได้เช่นกัน แต่หากใครแพ้นมแอลมอนด์ก็สามารถเลือกใช้นมจากธัญพืชอื่น ๆ ได้ เช่น นมโอ๊ต นมถั่วเหลือง นมงาดำ หรือหากไม่ชอบรสชาตินมจากพืชจริง ๆ ก็ควรเลือกใช้นมวัวที่มีไขมันและน้ำตาลต่ำแทน

สูตรที่ 2 : กาแฟน้ำมะพร้าว

หากใครอยากเพิ่มความหอมอร่อยให้กับเมนูกาแฟดำในช่วงควบคุมน้ำหนักเช่นนี้ ไม่แน่ว่ากาแฟมะพร้าวก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการได้ ซึ่งไม่เพียงจะช่วยเพิ่มความหวานอย่างเป็นธรรมชาติ และเติมความสดชื่นได้อย่างลงตัวเท่านั้น แต่รู้หรือไม่? น้ำมะพร้าวยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน อีกทั้งยังมีไซโตไคน์ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคสมองเสื่อม และเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกายได้อีกด้วย

สำหรับขั้นตอนการทำกาแฟมะพร้าวก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงใช้น้ำมะพร้าวจากลูกมะพร้าวอ่อนเพียง 1 ลูก และผสมกาแฟดำ หรือ กาแฟเอสเพรสโซ่จำนวน 1 – 2 ช็อตก็สามารถดื่มด่ำความอร่อยไปพร้อมกับคุณประโยชน์จากมะพร้าว แถมยังได้สัมผัสกับความสดชื่นและความหอมหวานอย่างเป็นธรรมชาติ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่เหมาะกับคนคุมน้ำหนักอย่างแท้จริง

สูตรที่ 3 : กาแฟน้ำมะนาวและเลม่อน

แต่สำหรับใครที่ต้องการเติมคาเฟอีน พร้อมเพิ่มความสดชื่นซาบซ่าในระหว่างควบคุมน้ำหนัก บอกเลยว่า “กาแฟน้ำมะนาว” หรือ “กาแฟเลม่อน” ถือเป็นอีกหนึ่งสูตรกาแฟที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว โดยทั้งมะนาวและเลม่อนนั้น นอกจากจะอุดมไปด้วยวิตามินซีที่สูงแล้ว ผลไม้ทั้ง 2 ชนิดนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมให้ร่างกายแข็งแรง แถมยังสามารถช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ได้อีกด้วย

สูตรกาแฟน้ำมะนาว หรือ กาแฟเลม่อนนี้ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงใช้มะนาว 1 – 3 ลูก หรือ เลม่อนเพียงครึ่งลูก จากนั้นผสมเข้ากับน้ำเปล่า 150 มิลลิลิตร และเทผสมเข้ากับกาแฟดำที่เตรียมไว้ หรือ เอสเพรสโซ่ขนาด 1 – 2 ช็อต ง่าย ๆ เพียงเท่าก็เติมความสดชื่นแบบเต็มแม็กซ์ในช่วงควบคุมน้ำหนักได้แล้ว

สูตรที่ 4 : กาแฟน้ำส้ม

กาแฟน้ำส้มถือเป็นอีกหนึ่งสูตรกาแฟยอดฮิตที่เหมาะกับทั้งคนควบคุมน้ำหนักและอากาศอันร้อนแรงของเมืองไทย ซึ่งผลไม้อย่างส้มนั้น ไม่เพียงแต่จะอุดมไปด้วยวิตามินซีที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ภูมิคุ้มกันร่างกายเท่านั้น แต่ส้มยังช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยบำรุงหัวใจ และลดคลอเลสเตอรอลได้อีกด้วย 

การทำกาแฟน้ำส้มก็ไม่ได้ซับซ้อนและวุ่นวายอย่างที่คิด เพียงใช้น้ำส้มสดเพียง 100 มิลลิลิตร เทลงไปในน้ำแข็ง จากนั้นก็ราดเอสเพรสโซ่ 1 – 2 ช็อต หรือ ตามความเข้มที่ต้องการลงไป เท่านี้ก็ได้สัมผัสเปิดมิติสู่เมนูกาแฟใหม่ ๆ ที่ดีต่อสุขภาพ แถมได้รับประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพเต็ม ๆ อีกด้วย

สูตรกาแฟฉบับคนคุมน้ำหนักไม่อยากกินกาแฟดำ

สูตรที่ 5 : กาแฟกับผลไม้เบอร์รี่

นอกจากกาแฟนมแอลมอนด์ กาแฟมะพร้าวที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องแล้ว บอกเลยว่ากาแฟผลไม้เบอร์รี่อย่างสตรอว์เบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ และบลูเบอร์รี่ก็เป็นอีกหนึ่งสูตรกาแฟที่กำลังมาแรงไม่ใช้น้อย โดยผลไม้ตระกูลเบอร์รี่นั้นจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง ที่สำคัญ การกินผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เป็นประจำยังช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย!

และหากคอกาแฟคนไหนต้องการเติมพลังงานจากคาเฟอีนไปพร้อมกับรับคุณประโยชน์จากเบอร์รี่ก็สามารถชงกาแฟผลไม้เบอร์รี่ได้เช่นกัน ซึ่งวิธีการก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงนำผลไม้เบอร์รี่ที่ชอบมาบดหยาบ ๆ เพื่อได้เนื้อสัมผัสและน้ำจากผลไม้ จากนั้นจึงเติมน้ำแข็งในแก้ว ใส่น้ำอุณหภูมิปกติและราดกาแฟเอสเพรสโซ่ 1 – 2 ช็อต หรืออาจเทกาแฟดำลงไปก็พร้อมดื่มได้ทันที

สูตรพิเศษ! Room Coffee กาแฟเพื่อสุขภาพ ครบจบ 36 คุณประโยชน์ในซองเดียว!

จากกาแฟทั้ง 5 สูตรกาแฟที่ผ่านมา หลาย ๆ คนก็อาจจะเป็นกังวลในเรื่องของการเตรียมอุปกรณ์ ตลอดจนการเตรียมวัตถุดิบในการชง ซึ่งหากใครรู้สึกว่ากาแฟทั้ง 5 สูตรยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการ และยังต้องการทางเลือกอื่น ๆ เพิ่มเติม Room Coffee พร้อมเป็นอีกหนึ่งเมนูกาแฟดี ๆ ที่ไม่เพียงแต่จะเป็นการเบลนกาแฟรสชาติพิเศษจากทั้งเมล็ดกาแฟบราซิล ไทย และเวียดนามได้อย่างลงตัวเท่านั้น แต่ภายใน 1 ซองยังอัดแน่นไปด้วยสารอาหารมากกว่า 36 ชนิดที่พร้อมช่วยคุณดูแลสุขภาพได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งให้พลังงานเพียงแค่ 40 แคลอรีเท่านั้น เพียงฉีกซอง เทน้ำร้อน ก็ Grab & Go และคุมน้ำหนัก ตลอดจนกระชับสัดส่วนทั่วร่างได้ใน 2 เดือน* หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อเข้ามาได้ที่ 02 599 1999

*ผลลัพธ์อาจแตกต่างในแต่ละบุคคล